วัคซีนแมว คือ การดูแลแมวให้ดีเป็นสิ่งที่เจ้าของพึงกระทำอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องของการเลือกให้อาหารที่ดี การดูแลสุขอนามัยแวดล้อมให้สะอาดเพียงเท่านั้น การพาน้องแมวไปตรวจสุขภาพร่างกายและเข้ารับวัคซีนแมวก็เป็นอีกหนึ่งในวิธีการดูแลเอาใจใส่ที่สำคัญอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน
การให้วัคซีนแมวจะช่วยลดและป้องกันการติดเชื้อไวรัสจากโรคต่าง ๆ ที่อาจทำให้ป่วยได้ แต่ไม่ควรเริ่มรับวัคซีนแมวเร็วเกินไป เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากนมแม่หลังคลอดจะต่อต้านกับวัคซีนแมวและไม่สร้างภูมิคุ้มกันใหม่ขึ้นมา ควรให้น้องแมวเข้ารับวัคซีนแมวในช่วงเวลาที่เหมาะสม
อาจเป็นช่วง 2 – 3 เดือนแรกหลังคลอด ถึงพาน้องแมวเข้ารับวัคซีนเข็มแรกได้ เพราะเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากแม่จะค่อย ๆ ลดลง รับการการได้รับภูมิคุ้มกันจากวัคซีคแมวพอดี
โดยโรคติดเชื้อที่สำคัญในแมว จำแนกออกเป็น 2 กลุ่ม
วัคซีนแมว กลุ่มที่ 1 โรคติดเชื้อหลัก
1. โรคไข้หัด (Feline panleukopenia, Feline distemper)
มักพบในแมวเด็ก จะส่งผลต่อการทรงตัวและอาจทำให้ลูกแมวตาบอดได้ แต่หากเกิดขึ้นกับแมวโต จะมีอาหารเซื่องซึม เบื่ออาหาร มีไข้สูง อาเจียน ท้องเสีย อาจถ่ายเป็นเลือดและมีกลิ่นคาว บางครั้งอาจมีอาการปวดช่องท้องจากการขยายตัวของลำไส้ อันเนื่องจากแก๊ซและของเหลว หากเลี้ยงแมวร่วมกันหลายตัว ควรแยกออกมาทันที เพื่อป้องการติดต่อที่อาจแพร่จากปัสสวะและอุจจาระแมวได้
2. โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น (Feline infectious upper respiratory tract disease)
โรคหวัดแมว หรือโรคระบบทางเดินหายใจ เกิดขึ้นจากสารคัดหลั่งจากตาและจมูก มีลักษณะเป็นน้ำใส ๆ หรือเป็นมูกเขียว อาจมีเลือดออกจากการจาม โดยโรคนี้มีด้วยกัน 2 ระยะ คือระยะเฉียบพลัน ซึ่งจะแสดงอาการ 10 วันโดยประมาณ และระยะเรื้อรัง ซึ่งจะแสดงอาการมากกว่า 10 วันขึ้นไป
3. โรคช่องปากและลิ้นอักเสบ
หนึ่งโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยในแมวที่อายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย ซึ่งสาเหตุหลักเกินจากภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคมีมากหรือน้อยเกินไป น้องแมวที่ทานน้ำน้อยหรือทานอาหารเปียก มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้ได้ง่าย โดยจะแสดงอาการจากการเริ่มส่งกลิ่นเหม็น น้ำลายไหล ทานอาหารน้อยลงหรือดมเพียงอย่างเดียว น้ำหนักตัวลด ต่อมน้ำเหลืองช่วงคอบวมโต บริเวณริมฝีปากและมุมปากเริ่มมีบาดแผล
4. โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies)
เชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าก็สามารถเกิดขึ้นได้กับแมวเช่นกัน ผ่านน้ำลาย การกัด ข่วน หรือเลียบริเวณบาดแผล หาดน้องแมวติดเชื้อไว้รัสแล้วจะแสดงอาการออกมา 3 ระยะ เริ่มต้นจากอการการเซื่องซึม มีไข้ ระยะต่อมาจะมีอาการตื่นตัวง่าย กระวนกระวาย ขี้หงุดหงิด และระยะสุดท้ายเข้าสู่การเป็นอัมพาต น้ำลายไหลย้อย และอาจเสียชีวิตได้
5. มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Feline leukemia virus : FeLV)
โรคลิวคีเมีย หรือโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว สามารถติดเชื้อผ่านน้ำลายจากการเลียกันหรือกัดกันของแมว โดยไวรัสจะใช้เวลา 2 – 3 สัปดาห์เข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ภาวะโลหิตจาง หรืออาจเกิดเนื้องอกได้ ซึ่งจะมีอาการเซื่องซึม เบื่ออาหาร มีไข้ ดื่มน้ำมากจนผิดปกติ อาจพบเลือดในอุจจะระได้เช่นกัน หากมีการติดเชื้อแบบเรื้อรัง อาจเกิดภาวะดีซ่าน น้ำหนัก ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วร่างกาย
วัคซีนแมว กลุ่มที่ 2 กลุ่มโรคติดเชื้อเสี่ยง
1. โรคเอดส์แมว (Feline Immunodeficiency Virus : FIV)
โรคเอดส์แมว หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว สามารถติดต่อจากแมวสู่แมวผ่านเลือดและน้ำลาย ที่เกิดจากการต่อสู้กันระหว่างแมว มิได้เกิดจากการมีผสมพันธุ์ต่อย่างใด โดยมากแมวเพศผู้มีโอกาสติดโรคเอดส์แมวได้มากว่าแมวเพศเมีย อาการที่มักแสดงให้เห็นคืออาการอ่อนเพลีย เบื่ออหาร ช่องปากและเหงือกอักเสบ ต่อมน้ำเหลืองโต ควรแยกน้องแมวที่ติดเชื้อออกจากตัวอื่น ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
2. โรคช่องท้องอักเสบ (Feline infectious peritonitis : FIP)
โรคช่องท้องอักเสบ เกิดจากภาวะหลอดเลือดอักเสบ และส่งผลต่อช่องท้องอวัยวะในช่องอก ตา และรวมถึงระบบประสาทด้วย มักพบในแมวที่อายุน้อยกว่า 2 ปีและแมวแก่ ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง ซึ่งอาการป่วยจะแสดงอาการเชื่องซึม มีไข้สลับขึ้นลง เบื่ออาหาร มีอาการท้องป่อง หายใจหอบถี่ ม่านตาอักเสบ เดินโซเซ ขาอ่อนแรง รวมถึงอาการทางระบบประสาทอื่น ๆ ด้วย
โปรแกรมวัคซีนในแมว | |||
อายุ | ชนิดวัคซีน | ครั้งที่ | |
8 | สัปดาห์ | วัคซีนป้องกันไข้หัด และ โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น ช่องปากและลิ้นอักเสบ | ครั้งที่ 1 |
11 | สัปดาห์ | วัคซีนป้องกันไข้หัด และ โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น ช่องปากและลิ้นอักเสบ | ครั้งที่ 2 |
14 | สัปดาห์ | วัคซีนป้องกันไข้หัด และ โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น ช่องปากและลิ้นอักเสบ | ครั้งที่ 3 |
17 | สัปดาห์ | วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า | ครั้งที่ 1 |
20 | สัปดาห์ | วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า | ครั้งที่ 2 |
1 | ปี | กระตุ้นวัคซีนพิษสุนัขบ้า , ไข้หัด และ โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น ช่องปากและลิ้นอักเสบ |
อย่างไรก็ตามการพาน้องแมวเข้ารับ วัคซีนแมว ควรได้รับการตรวจสุขภาพและการปรึกษาจากสัตวแพทย์แล้ว รวมไปถึงการตรวจสุขภาพน้องแมวเป็นประจำทุกปีอย่างสม่ำเสมอด้วย
Credit By www.mixactivitys.com www.petcutety.com www.ozarksfirst.biz www.comshareasale.com